โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เป็นโรงเรียนที่สอนเด็กโดยใช้ภาษาไทย แต่ในขณะเดียวกันผู้ปกครองสามารถเลือกให้เด็กเรียนภาษาอังกฏษกับครูเจ้าของภาษาเป็นกิจกรรมพิเศษที่โรงเรียนได้
ทำอย่างไรให้ทีวีไม่มีภัยแต่ให้คุณค่า
ดา พิทักษ์สินสุข
สำหรับลูกวัยอนุบาลนั้นดูเหมือนว่าคุณพ่อคุณแม่จะจัดหาทีวีไว้เป็นเครื่องสร้างความบันเทิงให้ลูกน้อย ให้เป็นเพื่อนพาเพลินกับการ์ตูนตลอดวัน และละครหลังข่าว ให้เป็นไกด์พาไปท่องโลกกว้างเพียงแค่นั่งหน้าจอ ให้เป็นพี่เลี้ยงที่ตรึงลูกไว้ไม่ให้ซุกซน ไม่ต้องเล่น ไม่ต้องไปไหน หันไปทีไร สบายใจได้ลูกยังอยู่หน้าทีวี สุดท้ายในหลายบ้านทีวีกลับกลายร่างเป็นเจ้าตัวปัญหาที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่แก้ไม่ตกทีเดียวค่ะ
ลูกปักหลักหน้าจอทีวี มีผลอย่างไร
ลองเปรียบเทียบดูระหว่างเด็กสองคนต่อไปนี้นะคะ บางวันน้องภูมิชวนคุณพ่อออกไปถีบจักรยาน แล้วกลับมาเล่นต่อบล็อก บางวันทำการบ้านเสร็จก็ออกไปเตะบอลอยู่ที่สนาม บางวันก็ไปช่วยคุณพ่อล้างรถ ไปอาบน้ำ แล้วมานั่งดูทีวีนิดหน่อยก่อนกินข้าว ส่วนน้องเมย์เอาเวลาเดียวกันนั่งดูทีวีช่อง 3 จบเปลี่ยนไปดูช่อง 5 แล้วก็เปลี่ยนไปดูช่อง9 สลับไปสลับมากับอีกหลากหลายช่องของ UBC จนค่ำมืด จะเกิดอะไรกับเด็กสองคนนี้
ผลต่อสุขภาพ คงได้คำตอบตรงกันนะคะว่าสุขภาพของเด็กสองคนข้างต้น ใครจะดีกว่ากัน ขณะที่วัยของลูกกำลังเจริญเติบโต ต้องการการออกกำลังกาย พฤติกรรมของลูกกลายเป็นการนอนเอกเขนก ตาจับจ้องอยู่หน้าจอทีวี แถมบางบ้านยังมีขนมนมเนย น้ำหวานพร้อมขนมกรุบกรอบ เอื้อให้ลูกปักหลักอยู่แต่หน้าจอทีวี เรากำลังทำอะไรกับสุขภาพของลูก หากเป็นเช่นนี้นานๆ ไม่รีบปรับวิถีชีวิตใหม่ ความอ้วนและความอ่อนแอก็จะเกิดขึ้นทีละน้อยๆ ความกระตือรือร้นจะลดลงความขี้เกียจจะตามมา กลับบ้านมาจะเปิดทีวีดูก่อนทำอย่างอื่น เพราะเป็นความสุขที่หาได้ง่ายเพียงแค่หยิบรีโมทเท่านั้น
ผลต่อการคิดและแก้ปัญหา แต่ละวันของน้องภูมิที่มีกิจกรรมที่หลากหลาย คือประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้คิด ได้ทดลอง เกิดการค้นพบและฝึกฝนที่จะแก้ปัญหา รวมถึงได้สร้างสรรค์วิธีการเล่นใหม่ๆ น้องภูมิเกิดการเรียนรู้มากมายจากการลงมือทำด้วยตนเอง ขณะที่น้องเมย์ที่เอาแต่ดูทีวี การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจะเทียบชั้นกันไม่ได้เลยค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้จากวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน เป็นปี ทีวีก็จะเป็นตัวสกัดกั้นพัฒนาการด้านสติปัญญาของลูกอย่างน่าเสียดายทั้งๆ ที่เป็นช่วงวัยที่สมองของลูกจะกำลังเติบโตและพัฒนาสูงสุด
ผลต่อการเอาแต่ใจและทักษะทางสังคม เมื่อลูกอยู่กับทีวีตามลำพัง ลูกควบคุมทุกอย่างได้หมด ไม่ชอบใจช่องที่ดูอยู่ก็เปลี่ยนไปดูช่องใหม่ เบื่อไม่อยากดูแล้วก็กดปุ่มเปลี่ยนช่องไปอีก ทีวีก็ไม่เคยขัดใจ ลูกก็เคยชินกับการทำตามใจตัวเอง ลูกที่อยู่กับทีวีตามลำพังเสมอๆ วันใดที่คุณพ่อคุณแม่มานั่งดูทีวีด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็จะรู้ว่าตัวเองนั้นได้เสียสิทธิที่จะได้เลือกช่องตามต้องการ เพราะเมื่อเปลี่ยนช่องคราใดก็จะตามด้วยเสียงโวยวายของลูกที่ไม่ยอมถูกขัดใจ การอยู่กับทีวีกับการอยู่กับผู้คนก็จะต่างกันค่ะ เพราะถ้าอยู่กับผู้คนเด็กๆ ก็จะเรียนรู้ที่จะต้องปรับตัว รู้จักการพูดจาต่อรอง การประนีประนอม การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและความต้องการระหว่างกัน นั่นคือ ลูกจะเกิดการพัฒนาทักษะทางสังคมซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
นอกจากนี้ทีวียังเป็นตัวการส่งผ่านความรุนแรงเข้ามาสู่การรับรู้ของเด็กๆ เช่น
การ์ตูนที่ หลายๆ เรื่องที่ตัวเอกเป็นฮีโร่ใช้วิธีต่อสู้ ฟาดฟันและสังหารเจ้าตัวร้าย ละครทีวีที่ตบตี บีบคอ เตะต่อย มีให้เห็นแทบจะทุกตอน ยิ่งดูทีวีนานก็มีความเสี่ยงต่อการซึมซับความก้าวร้าวโดยไม่รู้ตัว
ผลต่อการเรียนในชั้นเรียน เมื่อลูกอยู่หน้าจอทีวีภาพในจอทีวีมีการเคลื่อนที่ที่เร็วมาก มีการตัดต่อภาพหลายภาพให้ปรากฏในแต่ละนาที ลูกก็จะเคยชินกับความเร็ว เหมือนกับที่เราคุ้นเคยกับการทำงานกับคอมพิวเตอร์หรืออินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วสูง เมื่อต้องทำงานกับรุ่นที่มีความเร็วต่ำกว่าที่เคยใช้ เราจะรู้สึกหงุดหงิดทันที ลูกของเราก็เช่นกันค่ะเมื่อเคยชินกับความเร็ว ก็จะไม่ค่อยมีสมาธิจดจ่อกับการเรียน ไม่อดทนกับการทำกิจกรรมที่ต้องใช้เวลา เช่น การอ่านหนังสือ การทำงานที่ต้องใช้ความประณีต การทำกิจกรรมกับกลุ่มเพื่อนที่ต้องอดทนรอ
นอกจากนี้เด็กที่ติดทีวี มักจะทำให้มีผลต่อสิ่งที่คุณครูมอบหมายให้กลับมาทำที่บ้าน เมื่อคุณแม่เตือนก็จะผลัดไปเรื่อยๆ จนค่ำก็ยังไม่ได้ทำ เกิดศึกระหว่างแม่กับลูก เด็กที่ติดทีวีก็จะนอนดึกและเมื่อถูกปลุกในตอนเช้าก็จะเริ่มวันด้วยความหงุดหงิด งัวเงียไม่ยอมรับประทานอาหารเช้า พอมาโรงเรียนเรียนไปไม่นานก็จะทั้งหิว ทั้งง่วง ปนหงุดหงิด หมดอารมณ์ที่จะเรียนรู้
ทำอย่างไรให้ทีวีไม่มีภัยแต่ให้คุณค่า
เลือกรายการที่ดี และอยู่ดูกับลูก รายการทีวีบางรายการที่เลือกสรรแล้ว เช่น รายการที่ให้ความรู้ รายการสำหรับเด็กก็อาจให้ลูกดูโดยลำพังได้ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ร่วมดูด้วยก็จะช่วยต่อยอดความรู้ความคิดให้กับลูก ส่วนรายการอื่นๆ นั้นพ่อแม่ควรร่วมดูด้วย แล้วชวนลูกคิดชวนลูกคุย วิพากษ์วิจารณ์ดูว่าเรื่องที่ดูนั้นให้ข้อคิดอะไรกับลูกบ้าง ให้รายการทีวีเป็นเรื่องที่นำมาสู่การเรียนรู้ การปล่อยให้ลูกอยู่กับทีวีลำพังกับบางรายการ ย่อมเป็นผลเสียเพราะลูกยังแยกแยะไม่ออกว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ยังต้องการการชี้แนะจากผู้ใหญ่
กำหนดเวลาในการดูทีวี กำหนดเวลาในการดูทีวีให้แน่นอน หากลูกดูทีวีวันละนานๆ ให้ลดเวลาลงด้วยการชวนลูกทำกิจกรรมอื่นแทน เช่นการเล่นของเล่น การเล่นออกกำลังกาย การช่วยงานคุณพ่อคุณแม่ แม้จะยุ่งบ้างแต่ทำให้ได้ใกล้ชิดกับลูก ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกต้องการ
ดูทีวีให้ถูกที่ ถูกเวลา ไม่ควรให้ลูกทำการบ้าน ค้นคว้าหรือทบทวนเรื่องเรียนหน้าจอทีวี ไม่อย่างนั้นทำไม่เสร็จซักที จะพบว่าในรายที่คุณแม่ให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเปิดทีวี จะประสบความสำเร็จดีกว่าให้ดูทีวีก่อนทำการบ้านค่ะ เพราะเหมือนกับว่าเมื่อลูกรับผิดชอบหน้าที่เรียบร้อย ก็จะได้ดูทีวีเป็นการให้รางวัล ควรจัดที่ทำการบ้านอ่านหนังสือที่ปราศจากทีวีรบกวนสมาธิ ไม่ควรให้ลูกดูทีวีไปทำการบ้านไป หรือดูทีวีไปรับประทานอาหารไป เพราะจะใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จ คุณแม่บางคนสร้างปัญหาให้กับตัวเองด้วยการเปิดทีวี เปิดวิดีโอให้ลูกดูการ์ตูนตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน คราวนี้ก็ต้องออกรบกันทุกวันที่จะให้ลูกยอมปิดทีวีแล้วไปโรงเรียน
เอสโอเอส ทำอย่างไรลูกติดทีวีไปแล้ว
ก่อนอื่นเลยต้องถามตัวเองก่อนค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่มีความตั้งใจจริงหรือไม่ที่จะปรับพฤติกรรมการดูทีวีของลูก เพราะระยะเวลาของการปรับความเคยชินนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องกำกับดูแลด้วยความเอาใจใส่ ให้กำลังใจและชื่นชมลูกทันทีที่ลูกมีพฤติกรรมเป็นไปตามความคาดหวัง และต้องแสดงท่าทีชัดเจนเพื่อยืนยันให้ลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่มีความตั้งใจให้ลูกเกิดการเปลี่ยนแปลง และต้องติดตามอย่างต่อเนื่องจนกว่าลูกจะเปลี่ยนจากกิจวัตรเดิมที่อยู่หน้าจอที่ดีให้ได้ ถ้ามั่นใจว่ามีความตั้งใจจริง ลูกก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมได้
ให้ลูกมีส่วนร่วมกำหนดเวลาของการดูทีวี พูดคุยกับลูกถึงผลของการติดทีวีที่ให้ผลเสียกับลูก แล้วช่วยกันสร้างข้อตกลงว่าจะค่อยๆ ลดเวลาการดูทีวีอย่างไร เอาทีละขั้นให้ลูกพอจะทำได้ มีความเป็นไปได้ แล้วประสบความสำเร็จไปทีละขั้นตอน อย่าลืมชื่นชมเมื่อลูกทำได้ จะได้เป็นกำลังใจให้ทำดีต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ตกลงให้ลูกรู้ว่าทีวีนั้นเป็นของส่วนกลาง ไม่ใช่ของที่ลูกจะจับจองอยู่คนเดียวเพราะฉะนั้น บางเวลาก็เป็นรายการโปรดของคุณพ่อ บางรายการก็เป็นรายการโปรดของคุณแม่
ควรพูดคุยกับลูกเพื่อที่นำทีวีออกไปจากห้องนอนของลูก ให้มาอยู่ที่ส่วนกลางของบ้าน หรือหาวิธีที่จะเอาทีวีไปซ่อม แล้วไม่ควรเอากลับเข้าห้องนอนลูกอีก
ผู้ใหญ่ทุกคนในบ้านควรเห็นพ้องต้องกันและปฏิบัติกับลูกไปในทิศทางเดียวกัน
ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ประสบความสำเร็จในการปรับพฤติกรรมของลูกในเรื่องการดูทีวี และหากจัดการเรื่องทีวีได้ การฝึกวันัยเรื่องอื่นใดก็ไม่ใช่เรื่องยาก
BACK TO TOP